เมนูของหวานไทยง่ายๆ อร่อย ประหยัด ทำได้ที่บ้าน
เมนูของหวานไทยง่ายๆ ขนมไทยโบราณเป็นขนมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดดเด่นด้วยรสชาติที่หวานหอม กลมกล่อม และความหลากหลายของวัตถุดิบที่ใช้ ขนมไทยโบราณมักทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ข้าวเจ้า แป้ง น้ำตาล กะทิ มะพร้าว ผลไม้ต่างๆ เป็นต้น จึงทำให้ขนมไทยมีรสชาติที่กลมกล่อม หอมหวาน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ขนมไทยโบราณมักมีชื่อเรียกที่ไพเราะ สื่อถึงความสวยงาม และความมงคล เช่น ขนมทองหยอด ทองหยิบ ฝอยทอง ขนมชั้น ขนมถ้วยฟู ขนมหม้อแกง ขนมเปียกปูน เป็นต้น ขนมไทยโบราณมักนิยมรับประทานในงานมงคลต่างๆ เช่น งานบวช งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น
ในปัจจุบัน ขนมไทยโบราณเริ่มได้รับความนิยมน้อยลง เนื่องจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้คนหันมารับประทานขนมสำเร็จรูปกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขนมไทยโบราณยังคงเป็นขนมที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม ควรอนุรักษ์ไว้สืบไป สูตรขนมไทยโบราณ
ขนมพระพาย เมนูของหวานไทยง่ายๆ หวาน หอม เหนียวนุ่ม ละมุนลิ้น
ส่วนผสม
- ข้าวกล้อง 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- กะทิ 1 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา
- ใบมะกรูดซอย 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
- ล้างข้าวกล้องให้สะอาด ใส่ลงในหม้อ เติมน้ำเปล่าจนท่วมข้าว ตั้งไฟกลาง ต้มจนน้ำเดือด
- ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ต้มต่ออีกประมาณ 20 นาที หรือจนข้าวสุก
- ใส่กะทิ เกลือ พริกไทยดำ คนให้เข้ากัน
- ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที หรือจนกะทิแตกมัน
- ปิดไฟ ใส่ใบมะกรูดซอย คนให้เข้ากัน
เคล็ดลับ
- เลือกข้าวกล้องที่เม็ดสวย สะอาด ไม่มีกลิ่นหืน
- ต้มข้าวด้วยไฟอ่อน เพื่อให้ข้าวสุกทั่วถึงและไม่เป็นยาง
- ต้มกะทิด้วยไฟอ่อนเช่นกัน เพื่อให้กะทิไม่แตกมัน
วิธีรับประทาน
เสิร์ฟร้อนๆ กับเครื่องเคียงตามชอบ เช่น ผักต้ม ไข่ต้ม หมูยอ กุนเชียง เป็นต้น
อ่านง่าย
ส่วนผสม
- ข้าวกล้อง 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- กะทิ 1 ถ้วย
- เกลือนิดหน่อย
- พริกไทยดำนิดหน่อย
- ใบมะกรูดซอย 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
- ล้างข้าวกล้องให้สะอาด
- ใส่ข้าวกล้องลงในหม้อ เติมน้ำเปล่าจนท่วมข้าว
- ตั้งไฟกลาง ต้มจนน้ำเดือด
- ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ต้มต่ออีกประมาณ 20 นาที หรือจนข้าวสุก
- ใส่กะทิ เกลือ พริกไทยดำ
- ต้มต่ออีกประมาณ 10 นาที หรือจนกะทิแตกมัน
- ปิดไฟ ใส่ใบมะกรูดซอย
เคล็ดลับ
- เลือกข้าวกล้องที่เม็ดสวย สะอาด ไม่มีกลิ่นหืน
- ต้มข้าวด้วยไฟอ่อน เพื่อให้ข้าวสุกทั่วถึงและไม่เป็นยาง
- ต้มกะทิด้วยไฟอ่อนเช่นกัน เพื่อให้กะทิไม่แตกมัน
วิธีรับประทาน
เสิร์ฟร้อนๆ กับเครื่องเคียงตามชอบ เช่น ผักต้ม ไข่ต้ม หมูยอ กุนเชียง เป็นต้น
เพิ่มเติม
- กะทิสามารถปรับปริมาณได้ตามชอบ
- เกลือและพริกไทยดำสามารถปรับปริมาณได้ตามชอบ
- ใบมะกรูดสามารถใส่มากหรือน้อยได้ตามชอบ
กล้วยบวชชี เมนูของหวานง่ายๆ ทําเอง
ส่วนผสม
- กล้วยน้ำว้าสุก 8 ลูก
- หัวกะทิ 225 มิลลิลิตร
- หางกะทิ 300 มิลลิลิตร
- ใบเตย 2 ใบ
- น้ำตาลปี๊บ 30 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว 20 กรัม
วิธีทำ
- ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้า หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม.
- ใส่หางกะทิและใบเตยลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง ต้มจนเดือด
- ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทรายขาว และเกลือลงไป คนให้ละลาย
- ใส่กล้วยลงไป ต้มจนกล้วยสุก
- ราดด้วยหัวกะทิ ปิดไฟ
เคล็ดลับ
- เลือกกล้วยน้ำว้าสุกพอดี ไม่สุกมาก จะได้กล้วยที่หนึบ ไม่เละ
- ใส่ใบเตยลงไปต้มกับหางกะทิ จะได้กลิ่นหอมของใบเตย
- ต้มกล้วยจนสุกแต่อย่าให้เละ
- ราดด้วยหัวกะทิ จะได้ความเข้มข้นและหอมมัน
วิธีรับประทาน
เสิร์ฟร้อนๆ กับข้าวเหนียว หรือข้าวสวย ก็ได้
สูตรนี้ทำง่ายมาก ใช้เวลาไม่นาน ก็ได้กล้วยบวชชีอร่อยๆ ไว้ทานกันแล้ว
ขนมตาล เป็น เมนูของหวานไทยง่ายๆ ได้เองที่บ้าน
ส่วนผสม
- เนื้อลูกตาลสุก 200 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
- กะทิ 320 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- มะพร้าวขูด ตามชอบ
วิธีทำ
- ใส่เนื้อลูกตาลลงในชามผสม บดจนละเอียด
- ใส่แป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาลทราย ผงฟู และเกลือ คนให้เข้ากัน
- เทส่วนผสมลงในพิมพ์ขนมตาล โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด
- นำไปนึ่งในน้ำเดือดจัดประมาณ 30 นาที
- พักขนมให้เย็น ตัดเป็นชิ้นพอดีคำ พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับ
- เลือกเนื้อลูกตาลสุกกำลังดี จะได้ขนมที่หอม หวานมัน
- บดเนื้อลูกตาลให้ละเอียด จะได้เนื้อขนมที่เนียนนุ่ม
- ใส่กะทิเยอะๆ จะได้ขนมที่หอมมัน
- ใส่ผงฟูช่วยให้ขนมฟูขึ้น
- นึ่งขนมในน้ำเดือดจัด จะช่วยให้ขนมสุกทั่วถึง
วิธีรับประทาน
เสิร์ฟขนมตาลคู่กับชาร้อนหรือกาแฟร้อน ก็ได้ความอร่อยไปอีกแบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก wongnai.com