ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมไหว้พระจันทร์ในไทย ประวัติของขนมไหว้พระจันทร์
ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมไหว้พระจันทร์ในไทย ต้องกล่าวก่อนเลยว่า ขนมไหว้พระจันทร์ นั้นเป็นขนมที่มีขึ้นในสมัยราชวงถังของคนจีน ซึ่งประเทศไทยก็รับเอาขนมไหว้พระจันทร์เข้ามา ปรุงแต่ง ให้เกิดเป็นรสชาดที่ถูกปากกับคนไทย
ซึ่งในประเทศไทยของเรานั้น ก็มีคนไทยเชื้อสายจีน อยู่เยอะพอสมควร ขนมไหว้พระจันทร์ถึงเป็นขนมที่คนไทยรู้จัก และทำกินทำขายกันมาก ซึ่งขนมไหว้พระจันทร์ในไทยนั้น ก็มีประวัติอยู่เช่นกัน ซึ่งก็เกิดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเอง ของหวานไหว้ 9 อย่าง
หลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง ได้มีคนจีน อพยพเข้ามาในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนไทยรู้จักขนมไหว้พระจันทร์กันมากขึ้น เพราะคนจีนที่อพยพเข้ามา ได้มีการจัดเทศกาลไหว้พระจันทร์ กันอย่างคึกคัก ครึกครื้น ซึ่งในไทยนั้น มีการไหว้พระจันทร์กันถึง3คนใน1วันเลยทีเดียว
ซึ่งเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ ก็คงอยู่คู่กับคนไทยเชื้อสายจีนมาอย่างยาวนาน ทำให้มีการทำไส้ขนมไหว้พระจันทร์แบบรสชาดใหม่ๆเข้ามา เพื่อให้ถูกปาก และมีการจัดพิธี ประกวดขนมไหว้พระจันทร์ ของคนในจังหวัดนั้นๆ dafabets เว็บพนันออนไลน์
เรื่องราวและประวัติของขนมไหว้พระจันทร์นั้นมีเรื่องราวอีกมากมาย แต่เราจับใจความเพียงสั้นๆ เพื่อให้คนอ่านเข้าใจได้ง่าย ซึ่งหากต้องการข้อมูล หรือประวัติของขนมไหว้พระจันทร์ คุณสามารถติดตามและหาอ่านกันได้ที่เว็บไซต์ของเรา
ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมไหว้พระจันทร์ในไทย ตำนานของเรื่องราวในการไหว้พระจันทร์
ขนมไหว้พระจันทร์เป็นขนมหนึ่ง ที่มีตำนานเล่าขาน กันถึงขนมไหว้พระจันทร์นี้ไว้ ซึ่งคนทั่วไปส่วนใหญ่ มักจะไม่ค่อยรู้จัก ตำนานของขนมไหว้พระจันทร์ กันนักหรอก เพราะส่วนใหญ่ ก็จะกินขนมไหว้พระจันทร์ หรือนำขนมไหว้พระจันทร์มาไหว้
ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือเทศกาลต่างๆ ของคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งขนมไหว้พระจันทร์นั้น เทศกาลไหว้พระจันทร์ 2563 เป็นขนมที่อร่อย ที่ทำจากแป้ง และใส่ไว้ไว้ตรงกลางของขนม ไม่ว่าจะเป็นไว้ถั่ว ไส้ไข่เค็ม ไส้ทุเรียนกวน ไส้เผือก และอีกหลากหลายไส้ ที่ทำออกมาขายกัน
ซึ่งขนมไหว้พระจันทร์นอกจากจะอร่อย มีหลายไส้ แล้วเป็นขนมไว้ในไหว้ ในเทศกาลต่างๆแล้ว ขนมไหว้พระจันทร์ก็มีตำนานกล่าวขานในสมัย พระเจ้าถังเกาจู่ ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นแม่ทัพหลี่จิ้ง ที่ยกทัพไปปราบชนเผ่าซุงหนูและได้ชัยชนะกลับมา
ซึ่งตรงกับในวัน 15 ค่ำ กลางเดือน 8 เหล่าบรรดาประชาชนทั้งหลายต่างก็ยินดี และต้อนรับแม่ทัพหลี่จิ้ง ด้วยการจัดพิธีไหว้พระจันทร์ขึ้น ประชาชน และเหล่ามิตรสหาย ในราชวงค์ถังในช่วงนั้ ต่างก็ร่วมแสดงความยินดี กับแม่ทัพ ด้วยการทำขนมไหว้พระจันทร์
ถวายให้ พระเจาถังเกาจู่ หลังจากนั้น พระองค์จึงแบ่งขนม ให้ขุนนางและแม่ทัพ เพื่อเฉลิมฉลองกัน หลังจากนั้น ประเพณีไหว้พระจันทร์ จึงกลายเป็นประเพณีไหว้พระจันทร์ ตลอดมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง และแบ่งปันความสุข ให้กับทุกคนนั่นเอง
ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมไหว้พระจันทร์ในไทย อีกหนึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับกระต่าย บนดวงจันทร์
ขนมไหว้พระจันทร์นั้น เป็นขนมที่มีประวัติ และเรื่องราวอีกมายมาย จากที่เรายกตัวอย่าง และเล่าไป เป็นเพียงแค่ประวัติขนมไหว้พระจันทร์ของคนจีน และประวัติขนมไหว้พระจันทร์ในไทยแล้วนั้น ก็ยังมีประวัติขนมไหว้พระจันทร์เกี่ยวกับตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์อีกด้วย
เรียกได้ว่า เป็นขนมที่มีตำนานกล่าวขานมากมายเลย เราจะมาเปิดตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์ นั่นก็คือครั้งหนึ่งมีเทพสามองค์จำแลงเป็นคนชรามาขออาหารกับลิง หมาจิ้งจอก และกระต่าย ไหว้ พระจันทร์ ไส้แปดเซียน แต่มีเพียงกระต่ายที่สงสารแต่ไม่มีอาหารจะให้
กระต่ายจึงกระโดดเข้ากองไฟสละเนื้อตัวเองเป็นอาหาร เทพทั้งสามชื่นชมในความดีของกระต่ายจึงพาไปอยู่กับฉางเอ๋อร์ มีหน้าที่ตำยาวิเศษ ซึ่งฉางเอ๋อร์นั่นก็คือ ภรรยาของโฮ่วอี้ ที่เป็นหนุ่มที่ใช้ธนูยิงพระอาทิตย์ดับไป 9 ดวง โลกจึงเย็นลงและเหล่ามนุษย์ก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข
พระแม่เจ้าซีหวางหมู่เทพมารดรได้ให้ยาวิเศษกินแล้วเป็นอมตะให้ 2 เม็ด แต่เขาไม่ไม่ต้องการ จึงไม่ได้กินและฝากยาไว้กับภรรยา แต่มีชายคิดร้ายหวังขโมยยา ใช้อุบายหลอกฉางเอ๋อร์ให้มอบยาวิเศษ แต่นางไม่ยอมและเมื่อเหตุการณ์คับขันนางจึงกินยา 2 เม็ดนั้นเสียเอง
ทำให้ตัวเบาลอยละล่องสู่ท้องฟ้า ร่างของนางลอยสถิตอยู่ในดวงจันทร์ในวันนั้นซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 8 พอดี ประชาชนต่างซาบซึ้งในความดีของนางจึงจัดพิธีเซ่นไหว้ฉางเอ๋อร์ในวัน 15 ค่ำ กลางเดือน 8 ทุกปีจนกลายเป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์
ที่มาและประวัติความเป็นมา ของขนมไหว้พระจันทร์ ที่ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน
ดังที่กล่าวและเล่าไปข้างต้น ถึงเรื่องราว ของขนมไหว้พระจันทร์ ในประเทศไทย กันพอสังเขปแล้ว ซึ่งหากคุณอยากรู้ว่า ทำไมคนไทย หรือคนไทยเชื้อสายจีน ต่างก็ชื่นชอบ ในขนมไหว้พระจันทร์ และนิยมทำขนม ไหว้พระจันทร์ และนำขนมไหว้พระจันทร์ มาทำพิธีไหว้ ในช่วงเทศกาล
วันนี้เราจะมาตอบคำถามกัน แบบสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจ ได้ง่ายๆเลยนั้นก็คือ คนไทยในประเทศไทย ที่มีทั้งเชื้อสายจีน และเชื้อสายอื่นๆ ที่มีประชากรอยู่หลายร้อยครัวเรือน และมีชุมชน ขยายขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อประชากรมีมาก วัฒนธรรม และประเพณีที่มีการจัดขึ้น มาก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งในนั้น ก็มีพระเพณีไหว้พระจันทร์ ที่มีการนำขนม มาไหว้พระจันทร์นั่นเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นการสืบทอดประเพณีเก่าแก่ ที่ได้ทำต่อๆกันมา จนถึงในปัจจุบัน ซึ่งขนมไหว้พระจันทร์ ก็จะใช้ในพิธีการไหว้ และทุกคนในครอบครัว จะต้องได้กินกัน
และเมื่อมีการจัดงาน เทศกาลต่างๆเกิดขึ้น ในวันสำคัญ ก็ยิ่งทำให้ บัวหิมะ ไส้ คั ส ตา ร์ ด กลายเป็นที่รู้จักไปทั่ว ตั้งแต่ในจังหวัด ขยายไปเป็นที่รู้จักในหลายๆจังหวัด เพราะนอกจากจะเป็นขนม ในพิธีของการไหว้ ในเทศกาลแล้ว
ขนมไหว้พระจันทร์ยังเป็นขนม ที่คนไทย ต่างก็ชอบ และทำกินทำขายกันมาก เพราะมีรสชาติ ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีการพัฒนา ปรับรุงสูตรขนม ให้ถูกปากมากยิ่งขึ้น ทำให้ขนมนั้นโด่งดัง ไม่มีใครไม่รู้จัก อย่างแน่นอน
การไหวพระจันทร์เทศกาล ที่มีความสำคัญของชาวจีนเป็นอย่างมาก กับการรวมเข้ากับวัฒนธรรมไทย
ขนมไหว้พระจันทร์เป็นขนม ที่ทำขึ้น เพื่อนำมาไหว้ ในเทศกาลของคนไทย เชื้อสายจีน ซึ่งขนมไหว้พระจันทร์ มีรูปร่างเป็นทรงกลม คล้ายกับพระจันทร์ เมื่อก่อนขนมไหว้พระจันทร์ จะเป็นขนมทรงกลม ไหว้ พระจันทร์ ที่ไหน และมีสีเหลือง เหมือนดวงจันทร์เลย
ซึ่งในปัจจุบัน คนไทยเชื้อสายจีน และคนไทย ที่ชอบทำขนม ต่างก็นำขนมมาดัดแปลง ใส่ไส้ใหม่ๆ ทำขนมให้เป็นสีสันมากขึ้น ซึ่งขนมไหว้พระจันทร์ อย่างที่รู้ๆกันดังข้างต้น ที่กล่าวมาแล้ว นั้นก็คือ เป็นขนมที่มีความเป็นมา ทั้งในราชวงถังของประเทศจีน
ที่มีแม่ทัพ ยกทัพไปปราบชนเผ่าซุงหนู และได้ชัยชนะกลับมา ในวัน 15 ค่ำ กลางเดือน 8 และได้มีการจัดพิธีต้อนรับเกิดขึ้น เพื่อเฉลิมฉลอง และเป็นขนมที่มีตำนานของไทยเอง ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มีเรื่องเล่า ของการอพยพคนจีน ที่เข้ามาในไทย
และได้มีการ จัดเทศกาล ไหว้พระจันทร์ และมีการนำขนม ไหว้พระจันทร์มากิน ทั้งในเทศกาลไหว้พระจันทร์ และเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเทศกาลนี้ ถือเป็นเทศกาลหนึ่งของไทยไปแล้ว เพราะว่าจะมี การจัดพิธี ในเทศกาลนี้ทุกปี และสืบทอดต่อๆกันมา
และขนมนี้ ก็จึงกลายเป็นขนม ที่มีที่มา มีตำนาน ทั้งของไทยและของจีน ซึ่งรวมเป็นเรื่องราวที่ดี เป็นประเพณี ที่สืบทอด กันมาจนถึงปัจจุบัน ขนมไหว้พระจันทร์ก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เด็กรุ่นหลังก็ยังรู้จัก กันเป็นอย่างดี