ขนมเกาหลีพื้นบ้าน ขนมโบราณของเกาหลี หากได้ไปเกาหลีที่คุณไม่ควรพลาด อร่อยอย่าบอกใครเลย

ขนมเกาหลีพื้นบ้าน วันนี้เราจะมาแนะนำขนมพื้นบ้าน ของประเทศเกาหลี หากใครเป็นสายของหวาน รับรองจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะจะพูดถึงขนม หรือ”คันชิก” และที่สำคัญยังเป็นขนมเกาหลีโบราณ พื้นบ้านที่มีมานานแล้วอีกด้วย ที่จริงแล้วขนมนอกจากจะอร่อยแล้ว ยังสามารถบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นอยูีในอดีตได้อีกด้วย วันนี้เรามีมาแนะนำด้วยกัน 8 อย่างด้วยกัน มีดังต่อไปนี้นะคะ  winningFT

1.อินจอลมี มาเริ่มกันด้วยขนมอย่างแรกเลยนะคะ เป็นขนมที่มีลักษณะเป็นก้อนแป้งสีเหลือง นั้นก็คือ ขนมอินจอลมี นั่นเอง อินจอลมี เป็นแป้งต๊อกแบบต่างๆ หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เค้กข้าวเกาหลี ทำโดยการนึ่ง และโขลกแป้งข้าวเหนียว ซึ่งถ้าทำเสร็จแล้วจะมีรูปร่าง เป็นชิ้นเล็กๆ แค่เพียงมองด้วยสายตาก็รู้ได้แล้วว่า  ตัวขนมจะมีความนุ่ม และมักจะนำไปคลุกด้วยผงถั่วแห้ง หรือส่วนผสมอื่นๆ เรียกได้ว่าขนมอินจอลมี เป็นตัวแทนของข้าวเหนียว ที่มีหลายแบบขึ้นอยู่กับชนิดของโกมุลที่ใช้เคลือบเค้กข้าว สามารถทำด้วยผลถั่วเหลืองแห้ง ถั่วอะซูกิหรือเมล็ดงาก็สามารถนำคลุกได้ หรือจะนำผลไม้ มาใช้เป็นตัวเคลือบก็ได้ เช่น พุทราหั่นแห้ง

อินจอลมีนั้น ไม่เพียงแต่เป็นขนมยอดนิยมเท่านั้น ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะย่อยง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการ อินจอลมีสามารถเก็บไว้ได้ในตู้เย็น และนำออกมารับประทานได้ ถ้าถูกทำให้ร้อนเล็กน้อยในไมโครเวฟ ก็จะมีความอร่อยเกือบเท่าของที่ทำใหม่เลย เพราะความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอินจอลมี จึงถูกนำมาดัดแปลง ทานคู่กับขนมหวานหลากหลาย โดยที่จะพบกันบ่อยๆ คือเมนูขนมหวาน อินจอลมีบิงซู

2.ขนมคยองดัน เป็นอีกหนึ่งขนมหวาน ที่ทำมาจากข้าวด้วยเช่นกัน เป็นขนมที่มีลักษณะคล้ายกับ ขนมดังโงะของญี่ปุ่น ทีพอนวดออกมาแล้วจะเรียกว่าแป้งต๊อก นำมานวดแล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ ก่อนจะนำไปต้มในน้ำเดือด มีสีสันที่ชวนให้น่ารับประทาน หลากหลายขึ้นอยู๋กับส่วนผสม ที่ใช้เคลือบบนชั้นนอกสุด ขนมคยองดัน มีอีก2 แบบคือ พัตคยองดัน ที่ทำจากถั่วแดงบด และพัมคยองดัน ที่ทำจากเกาลัค ที่นำมาบดแล้วนำไปต้ม

แนะนำให้ทานคู่กับซูจองหวา จะทำให้รู้สึกสดชื่น และทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ เนื่องจากขนมคยองดัน ทำจากแป้งข่้าวเหนียวซึ่งย่อยยาก ในขณะที่ซูจองหวามีส่วนผสมของขิง และอบเชยช่วยให้ระบบเผาผลาญ และระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อรับประทานร่วมกัน จึงไม่หนักท้องจนเกินไป

3.ขนมฮวาจอน ขนมชนิดนี้ไม่ได้กินทุกช่วงนะคะ แต่จะมีการกินตามฤดูกาล โดยที่ขนมชนิดนี้มีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียว น้ำผึ้ง และดอกไม้ที่เราสามารถรับประทานได้ เช่น ดอกยี่โถ และที่สำคัญมักจะทานกัน ในช่วงเทศกาลSamjinnal และวันประสูติของพระเจ้า โดยดอกไม้ที่ใช้รับประทานบนขนมฮวาจอน จะมีการเปลี่ยนไปในแต่ละฤดู เช่นฤดูใบไม้ผลิด จะใช้ ดอกยี่โถ ดอกต้นแพร ดอกซากุระ ฤดูร้อนจะใช้ ดอกกุหลาบ ฤดูใบไม้ร่วง จะใช้ดอกเบญจมาศ ฤดูหนาว จะใช้ใบจิงจูฉ่าย ในผักชีล้อม ตัดเป็นกลีบดอกไม้

วิธีการทำแบบดั้งเดิม ต้องนำเค้กข้าวมาตกแต่ง ด้วยกลีบดอกชวนชม ซึ่งสามารถรับประทานได้ โดยนำไปล้าง ทำความสะอาดก่อนทีละกลีบ ซับให้แห้ง ติดไว้ที่ด้านบนของแป้ง และนำไปทอดในกระทะแบบจนแป้งสุก ฮวาจอนเป็นของหวานที่นอกจากหน้าตา จะดูน่ารัก น่าทานเป็นพิเศษแล้ว รสชาติยังหอม หวาน อร่อยมากๆด้วย

4.ขนมยักกวา จัดว่าเป็นขนมดั้งเดิมของเกาหลี ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีลักษณะเป็นรูปดอกไม้ คนเกาหลีเริ่มทานและทำขนมชนิดนี้กัน อย่างแพร่หลายตั้งแต่ยุคโชชอน ในปัจจุบันนี้จะรับประทานกันในช่วงเทศกาลซูซอง พิธีแต่งงาน และงานฉลองอายุ 60ปี ขนมยักกวา คำว่า ยัก แปลว่า ยา ดังนั้นขนมชนิดนี้ จัดว่าเป็นขนมสมุนไพรชนิดหนึ่ง เพราะมีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม

และคนเกาหลีสมัยก่อนเชื่อว่า น้ำผึ้งดีต่อสุขภาพจึงนิยมทำขนมชนิดนี้ทานกัน นอกจากน้ำผึ้งแล้ว ขนมยักกวา ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำผึ้ง น้ำมันงา และน้ำขิง ไวน์ขาว และที่ขาดไม่ได้คือแป้งสาลี วิธีทำก็คือผสมแป้งสาลี และน้ำมันงาเข้ากัน กรองด้วยกระชอน ผสมน้ำผึ้ง น้ำขิง ไวน์ขาวเข้าด้วยกัน นำไปผสมกับส่วนแรก นำไปแช่เย็นแล้วนำมากดกับพิมพ์รูปดอกไม้ และทอดในน้ำมันคลุกด้วยน้ำเชื่อม ก็เป็นอันเสร็จ

5.ขนมดาชิก เป็นขนมที่ทำมาจากธัญพีช นิยมกินหลังมื้ออาหาร กินคู่กับชา หรือจะเรียกว่าคุ้กกี้เกาหลีก็ได้ ทำจากแป้งข้าวเหนียวนวดผสมกับธัญพืช เช่น ต้นสน เกาลัค ถั่วเหลือง งาดำ โอมีจา หรือสมุนไพรอื่นๆ และน้ำผึ้ง จากนั้นนำแห้งไปกดใส่พิมพ์ไม้ ก่อนจะนำไปอบ ใครที่ชอบขนมที่ทานคู่กับน้ำชา ต้องชอบขนมชนิดนี้แน่นอน โดยที่แป้งธัญพีชเหล่านี้จะให้สีของขนม ที่แตกต่างกันไป มีทั้งสีเหลือง ชมพู ดำ เขียว และสีขาว

6.ขนมกางจอง เป็นขนมหวานที่เหมาะกับคนที่รักษาสุขภาพ เพราะขนมชนิดนี้ เป็นขนมหวานที่มีแคลอรี่ต่ำ เนื่องจากทำมาจากธัญพืช ชื่อขนมก็คือ ขนมกางจอง ขนมนี้ทำมาจากข้าวเหนียว น้ำผึ้ง และมอลต์ ที่นำไปต้มแล้ว และผสมกับธัญพืชต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วสน ลูกเกด และงา นิยมมากในงานสำคัญ อย่างงานแต่งงาน พิธีไหว้บรรพบุรุษ และวันซอลลัล คือวันปีใหม่ตามปฏิทินจันทรดติ หรือวันปีใหม่ของชาวเกาหลี ในทุกๆปี จะอยู๋ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ทุกคนจะกลับไปอยู่กับครอบครัวและทำพิธีเคารพ

บรรพบุรุษ มีงานเลี้ยงและมีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมหนึ่งที่นิยมเล่นกัน เพื่อความสนุกสนานก็คือ เล่นหมากเก็บ หรือที่นั่นจะเรีกกว่า คงกี นอกจากจะทำขนมกางจอง ชาวเกาหลียังนิยมกิน ต็อกกุก แป้งต็อกในน้ำซุปกระดูกวัว และต็อกมันดูกุก ในวันแรกของปีด้วย เพื่อชีวิตสดใส มั่งคั่ง และร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์

7.ขนมซงพยอน หรือเรียกอีกชื่อว่า ขนมชงเพียง เป็นของหวานที่นิยมกิน ในช่วงฤดูไบไม้ร่วง และช่วงเทศกาลซูซอก ทำจากแป้งต็อก ห่อด้วยไส้ด้านในคือ ถั่วแดง ถั่วเหลือง เกาลัค พุทรา งา และน้ำผึ้ง ปั้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว แล้วนำไปนึ่ง โดนใส่ใบสนลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความหอม และเพื่อเพิ่มกลิ่นสดชื่นของขนม สาเหตุที่ต้องปั้นขนม ให้เป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ก็เพราะเทศกาลซูซอก คือเทศกาลวันไหว้พระจันทร์นั่นเอง

ซึ่งขนมชนิดนี้ ในตอนรับประทานคนเกาหลี ส่วนมากมักจะกล่าวคำอธิษฐาน ในสิ่งที่ต้องการ หากท่านมีโอกาสได้ทาน ก็อย่าลืมขอพรจากพระจันทร์นะคะ เพราะคำอธืษฐานนั้น อาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็ได้

8.ขนมยอต ยอตจะเป็นขนมที่มีรูปร่าง คล้ายๆกับ ขนมไม้โบราณ หรือตังเมไม้ ที่ไทยมีขายกันนั่นเอง ยอตจะมีทั้งแบบแท่ง แบบไซรัป และแบบลูกอม ทำมาจากข้าว ข้าวเหนียว ข้่าวฟ่าหวาน ข้าวโพด มันหวาน นำมาเคี่ยวจนได้ที่ ปัจจุบันมีการผสมยอต กับถั่วต่างๆ งา เมล็ดทานตะวัน เกาลัค หรือฟักทองเข้าไปด้วย โดยจะมีชื่อที่ต่างๆกันออกไป เช่น แกยอต ยอตที่คลุกกับงา, ฮวังโกลยอต  ยอตที่ผสมกับข้าวโพด และมอลต์

ขนมเกาหลี พื้นบ้าน มีหลากหลายชนิด นอกจากนี้แต่ละชนิด ยังสามารถบอกเล่าความเป็นมาในอดีตได้อีกด้วย

และนี่ก็คือขนมเกาหลีพื้นบ้านของเกาหลี เป็นอย่างไรกันบ้างคะ มีแต่ขนมที่น่ากินทั้งนั้นเลย เรียกได้ว่ามีความสวยงามจากภายนอก มีความอร่อยภายใน แถมยังมีประวัติความเป็นมาของขนมที่น่าสนใจ หากท่านมีโอกาสได้ไปที่ประเทศเกาหลี บทความนี้ อาจจะมีประโยชน์ในการช่วยเหลือท่านในการเลือกทานขนมเกาหลีนะคะ

สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากความห่วงใยมาให้ท่านผู้อ่านที่ชอบทานขนมหวาน เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไปก็อาจจะทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้ ถึงแม้ว่าจะมีธัญพืชเป็นส่วนประกอบแต่ส่วนผสมส่วนใหญ่ของขนมเกาหลีนั้นเป็นแป้งจึงมีความหวานและน้ำตาลสูง ก็ขอให้ท่านรับประทานแค่พอสมควรนะคะ รวมร้านขนมหวานญี่ปุ่น