วันพุธ, กันยายน 11, 2024

ขนมต้ม ของหวานที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ขนมหวานมงคล

ขนมต้ม ของหวานที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ขนมหวานมงคล

ขนมต้ม เป็นของหวานมงคล ที่มีตำนาน แทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่า อาหารหวานอย่างขนมต้ม จะเป็นอาหารที่มีมาตั้งแต่ สมัยโบราณกาล ถึงกับต้องย้อนไปถึงสมัยสุโขทัย กันเลยทีเดียว ซึ่งมีการค้นพบ หลักฐานทางประวัติศาตร์ ที่ได้กล่าวถึง ขนมไทยชนิดนี้ที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย

และยังได้กล่าวถึงกันว่า ขนมต้ม ได้เข้ามาในอาณาจักร ประเทศไทยเราพร้อมๆกันกับ ลัทธิความเชื่อเรื่องเทพเจ้า ของศาสนาพราหมณ์ ที่มีตำนานเรื่องเล่าปรากฎว่า องค์พระพิฆเนศทรงโปรด ขนมหวานชนิดนี้มาก ด้วยความที่พระองค์ ทรงโปรดขนมนี้มากนั่นเอง ทำให้พระองค์เผลอเสวยเข้าไปเต็มท้อง

เมื่อเสวยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ขี่หนูที่เป็นพาหะของพระองค์ กลับไปยังวิมาน แต่ระหว่างทางมีงูตัวหนึ่งเลื้อยมา หนูซึ่งเป็นพาหะของพระองค์เจอเข้ากับ งูที่เลื้อยมาพอดี จึงเกิดความตกใจ จากที่วิ่งๆอยู่ก็สะดุด และหยุดชะงักทันที เป็นเหตุให้พระองค์ ทรงตกจากหลังหนูที่เป็นพาหะทันที

ทำให้พระองค์ “ทัองแตก” ขนมที่พระองค์เสวยเข้าไป ก็กระจายออกมาจากท้องพระองค์ พระพิฆเนศไม่เป็นอะไรมาก แต่รู้สึกเสียดายขนม พระองค์จึงทรงกอบเอาขนม กลับมาใส่ท้องใหม่ และจากนั้นก็ตีงูให้ตาย  และงูนั้นมาพันท้องไว้ไม่ให้ปริ เสร็จแล้วจึงเดินทางกลับไปวิมาน

ไม่ว่าจะคนทุกชนชาติ ทุกเผ่าพันธุ์ต่างก็ล้วน มีวัฒนธรรมอาหาร ในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว หรืออาหารหวาน ก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ตามท้องถิ่น และภูมิภาค ที่อยู่อาศัย แต่ไม่ว่าจะแตกต่างกันยังไง ทุกชาติ ทุกท้องถิ่น ก็จะต้องมี “ขนม” หรือของหวาน ประจำท้องถิ่นของตน

สำหรับ ขนมไทย ของบ้านเรานั้น ยิ่งมีให้เลือกรับประทาน กันหลายแบบ หลายรสชาติ เรียกได้ว่าเลือกรับประทาน กันแทบจะไม่หมดเลยทีเดียว หนึ่งในขนมไทย ที่เรียกได้ว่ามีประวัติ ความเป็นมาที่อยู่ คู่กับคนไทยมาช้านาน และถือได้ว่าเป็นขนมมงคล สำหรับชาวไทยก็คือ ขนมต้ม รสชาติที่หวาน กลิ่นมะพร้าวที่หอม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ที่ติดตรึงชาวไทยเรา มาหลายชั่วอายุคน ขนมหวานชนิดนี้ ไม่ได้มีดีแต่รสชาติ แต่ยังมีประวัติศาตร์ที่น่าสนใจ และน่ารู้  มีเรื่องตำนาน ความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้า ในสวรรค์ชั้นวิมาน จึงกลายเป็นหนึ่ง ในเมนูอาหารมงคล ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการใช้ในพิธีบวงสรวงเทวดา หากมีการจัดพิธีกรรมต่างๆ เพื่อบวงสรวงเทวดา ฟ้าดิน หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงใช้ขนมชนิดนี้ มาเป็นเครื่องบรวงสรวงนั่นเอง

ท่านรู้หรือไม่ ขนมต้มไม่ได้มีแค่แบบเดียว

สำหรับท่านใดที่สนใจ อยากจะลองทำขนมต้ม ไว้รับประทานเอง หรือเพื่อนำไปขาย ขอให้รู้ไว้เลยว่า ขนมชนิดนี้ ไม่ได้มีแค่แบบเดียว โดยจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ

1.ขนมต้มขาว ลักษณะของขนม เมื่อทำออกมาแล้วจะมีสีขาว โดยจะนำแป้งข้าวเหนียว มาปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ ยัดไส้เข้าไป ซึ่งไส้ข้างในก็จะมีวัตถุดิบ เครื่องปรุงที่ทำจากมะพร้าว กับน้ำตาล จากนั้นก็จะนำไปต้มให้แป้งสุก เวลาที่จะทาน ก็จะมีการโรยด้วยมะพร้าวขูด  เมื่อกัดเข้าไปจะได้รสสัมผัส ที่นุ่มละมุน ของแป้งที่อยู่ด้านนอก และความหวานลิ้นจาก ไส้มะพร้าว เคี่ยวน้ำตาลที่อยู่ด้านใน

2.ขนมต้มแดง ลักษณะเมื่อทำเสร็จแล้ว จะมีสีแดง จะใช้แป้งกดให้แบน แล้วนำมาคลุกกับมะพร้าว และน้ำตาลปี๊บ เคี่ยวรวมกัน จนเป็นสีแดง แบบนี้จะไม่มีไส้ กัดเข้าไปก็จะ หวานหอม อร่อยทันที แบบไม่ต้องลุ้น ซึ่งจะต่างกับแบบแรก ที่จะต้องลุ้นไส้ข้างในอีกที แต่ก็มีความอร่อยเหมือนกันทั้ง 2 แบบ

ขนมทั้ง2 แบบนี้ มักจะทำคู่กัน เพื่อใช้ในงานมงคล หรืองานบวงสรวงต่างๆ คนไทยเรามักจะไม่ทำแยก แค่แบบเดียว แต่ถ้าหากเราจะทำไว้สำหรับรับประทานคนเดียว ก็สามารถทำได้แบบเดียว เรียกได้ว่าขนมต้ม ของเรานั้น เป็นตำนานของหวาน ของไทยเรา ที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่โบราณ จวบจนถึงปัจจุบัน ก็ยังมีให้รับประทานกันอยู่ bet365

ขนมต้ม

สูตรการทำขนมต้มขาว

มีส่วนผสม และสัดส่วน ดังนี้ 1. แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย  2.มะพร้าวขูดสำหรับผัดไส้ 1 ถ้วย 3.มะพร้าวขูดสำหรับไว้คลุกตัวขนม 1/2ถ้วย 4.น้ำตาลปี๊บ 2ปีก/ฝา 5.น้ำใบเตยคัั้นประมาณ 1/2 ถ้วย

วิธีการปรุง 1.เทแป้งลงใส่ชามหรือภาชนะขนาดที่จะผสมได้สะดวกแล้วทำให้เป็นหลุมตรงกลาง

2.ค่อยๆเทน้ำใบเตยลงไป ใช้ไม่พายกวนไปเรื่อยๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน ใช้มือนวดต่อ ให้เข้ากันแล้วพักไว้

3.ตั้งกระทะผัดไส้ขนม โดยใส่น้ำตาลปี๊บลงไปในกระทะ เติมน้ำลงไปเล็กน้อย ใส่มะพร้าวขูดลงไปผัด ผัดให้มะพร้าวเริ่มแห้ง เหนียวสามารถปั้นได้ และยกขึ้น

4.มะพร้าวอีกส่วน ที่จะใช้คลุกตัวขนม ให้เอาไปนึ่งในซึ้ง แล้วคลุกกับเกลือเล็กน้อย

5.แป้งตัวขนม ที่พักไว้นั้น ให้เอามาปั้นเป็นก้อนกลมๆ แผ่ออกแล้วใส่มะพร้าวที่ปั้น เป็นก้อนกลมๆไว้ ห่อให้มิดทำจนหมด จากนั้นนำไปต้ม ในน้ำเดือด เมื่อขนมสุก จะลอยขึ้นมา ใช้กระชอนตักขึ้นมา สะเด็ดน้ำแล้วคลุกกับมะพร้าว

ขนมต้มแดง

วิธีทำ “ขนมต้มแดง” ทำง่าย ใช้วัตถุดิบแค่ 5 อย่าง

เมนูขนมไทยโบราณ ที่หลายๆคนคิดว่าทำยาก จริงๆแล้วไม่ได้ยากเลยนะคะ ใช้วัตถุดิบไม่เกิน 5 อย่าง แถมเวลาในการทำไม่เกิน 1 ชั่วโมง นั่นก็คือเมนู “ขนมต้มแดง” บางคนคิดว่าจะเหมือน ขนมต้มขาวไหมนะ จะบอกว่าเหมือนกันคะ เพียงแต่สูตรขนมต้มแดง เราจะผัดแป้งกับไส้กระฉีก แทนการห่อไส้แบบขนมต้มขาว มีวิธีทำดังนี้คะ

วัตถุดิบในการทำขนมต้มแดง 

1.แป้งข้าวเหนียว 220 กรัม

2.น้ำลอยดอกมะลิ 100 มิลลิลิตร

3.มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น 150 กรัม

4.น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม

5.เกลือ 1 ช้อนชา

6.น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร

วิธีการทำขนมต้มแดง

ขั้นตอนแรก: ปั้นแป้ง : ค่อยๆเทน้ำลงไปนวดกับแป้งข้าวเหนียวจนสามารถปั้นเป็นก้อนได้ แล้วแบ่งปั้นเป็นก้อน ขนาดเท่าๆกัน จากนั้นแผ่ให้เป็นแผ่น แล้วกดรูตรงกลาง ตั้งน้ำให้เดือด แล้วนำแป้งลงไปต้มจนสุก ตักขึ้นพักไว้

ขั้นตอนที่ 2: ผัดไส้กระฉีก : ใส่น้ำตาลปี๊บ เกลือ และน้ำเปล่าเล็กน้อย ลงไปเคี่ยวจนทุกอย่างละลายเข้ากัน ใส่มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น ลงไปผัดจนทุกอย่างเข้ากัน จากนั้น ใส่แผ่นแป้งต้ม ที่พักไว้ลงไป ผัดจนใส่กระฉีก คลุกเคล้าจนทั้่วแผ่นแป้ง

ขั้นตอนที่ 3: จัดเสิร์ฟ: ตัก “ขนมต้มแดง” ใส่จาน หรือกระทงไบตอง เพียงเท่านี้ เราก็จะมีขนมไทย โบราณหวานๆ ละมุนลิ้น อย่างขนมต้มแดง ไว้รับประทานกันแล้วคะ

อย่างที่บอก ขั้นตอนการทำไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ เพียงใช้เวลาไม่นาน เราก็สามารถทำทั้ง “ขนมต้มขาว และ “ขนมต้มแดง” ไว้ทานเล่นได้แล้วคะ ทั้ง2 แบบ ทำได้ง่ายๆไม่ยากเลยคะ  สูตรลอดช่องสิงค์โปร์